บทความ

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช
อ่าน
8,243
คะแนน
แก้ไขล่าสุด
30/09/2563
น้ำมันพืชเป็นอีกวัตถุดิบที่สำคัญในการปรุงอาหารตามบ้านเรือนหรือร้านค้า โดยชนิดน้ำมันพืชที่ผู้บริโภคนิยม 3 ลำดับแรก ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันทานตะวัน (สถาบันอาหาร, 2560) ผลิตภัณฑ์น้ำมันพืชในท้องตลาดจะมีความหลากหลายตามรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ เช่น แบบขวด PET แบบถุงพลาสติก แบบปี๊บ ในขนาดต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมีความสะดวกในการเลือกใช้
ขั้นตอนการผลิตน้ำมันพืช ประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ คือ การสกัดน้ำมันจากเมล็ดพืช และการทำน้ำมันให้บริสุทธิ์ หรือการปรับปรุงคุณภาพ จากนั้นน้ำมันที่ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์แล้วจะบรรจุลงในภาชนะภายใต้บรรยากาศของไนโตรเจนเพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้เกิดกลิ่นหืนในน้ำมัน
ด้านความตื่นตัวเรื่องภาวะโลกร้อนของกลุ่มผู้ประกอบการน้ำมันพืช มีความตื่นตัวค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการคำนวณค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์เปิดเผยข้อมูลผ่านการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์และฉลากลดโลกร้อนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. มากกว่า 15 ราย
จากข้อมูลการขึ้นทะเบียนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันพืชในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยใช้น้ำมันพืชชนิดบรรจุขวด PET ที่ขนาด 1 ลิตร ของน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มโอเลอิน เป็นตัวแทนพบว่าค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของน้ำมันถั่วเหลืองจะอยู่ในช่วง 550 – 700 กรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อขวด และน้ำมันปาล์มโอเลอินจะอยู่ในช่วง 1 – 1.5 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อขวด
สำหรับค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มโอเลอินดังกล่าวเป็นการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์อันประกอบด้วยช่วงการได้มาซึ่งวัตถุดิบ การผลิต การกระจายสินค้า การบริโภค และการกำจัดซาก พบว่าแหล่งทีมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงมาจากช่วงการได้มาซึ่งวัตถุดิบ โดยน้ำมันถั่วเหลืองมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 - 70 น้ำมันปาล์มโอเลอินมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 - 90 คือ มาจากการเพาะปลูกถั่วเหลืองและปาล์มน้ำมัน และบรรจุภัณฑ์ แต่ทั้งนี้สัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการเพาะปลูกของปาล์มที่มากกว่าเพราะเป็นพืชต่างชนิดกัน ถั่วเหลืองเป็นพืชล้มลุกในขณะที่ปาล์มเป็นไม้ยืนต้น รวมถึงอายุของพืช วิธีการดูแล การจัดการ เป็นต้น จะแตกต่างกัน
ดังนั้นอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันพืชพบว่าหากต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างมีนัยสำคัญ แนวทางหนึ่งคือ ต้องมีการบริหารจัดการวัตถุดิบต้นทาง การเลือกใช้แหล่งปลูกของวัตถุดิบที่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มากกว่า การเลือกใช้แหล่งวัตถุดิบภายในประเทศ เป็นต้น
เรียบเรียงโดย พวงพันธ์ ศรีทอง องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)